เว็บตรง รวมทุกค่ายไว้ที่เดียว เดิมพันกีฬาออนไลน์ ที่มาแรงและดีที่สุด

เจมส์ จิรายุ ทุ่มสุดตัว ยอมให้ นัท มีเรีย กระทืบกลางอก เพื่อความสมจริง
พระเอกชื่อดัง เจมส์ จิรายุ ทุ่มสุดตัวในละคร "โลกหมุนรอบเธอ" ยอมให้ นัท มีเรีย กระทืบกลางอก เพื่อความสมจริง

เพิ่งเจอกันเป็นครั้งแรกในละคร สำหรับ มีเรีย เบนเนเดดตี้ หรือ นัท มีเรีย กับ เจมส์ จิรายุ ตั้งศรีสุข ในละคร "โลกหมุนรอบเธอ" ของผู้จัด แอน ทองประสม กำกับการแสดงโดย แอ้ว อำไพพร จิตต์ไม่งง ทั้ง นัท และ เจมส์ ก็ยอมรับว่าเป็นบทที่หนักหน่วงจริงๆ

โดยเป็นตอนที่ มานะ(เจมส์จิ) เพิ่งเริ่มทำงานกับ นาริน(นัท มีเรีย) นักธุรกิจสาวร่ำรวย แต่สามีเพิ่งตายไป มีปัญหาเรื่องทรัพย์สินกับญาติๆ ของสามี ซึ่งเป็นสิ่งที่นารินหนักใจมาก นารินปรึกษามานะว่าจะทำอย่างไร

มานะก็เลยช่วยปลุกความมั่นใจให้นารินลุกขึ้นสู้ อย่ายอมแพ้ อย่ากังวล แต่วิธีปลุกความมั่นใจของมานะ อาจจะแปลกไปบ้าง โดยการให้นารินทำร้าย ย่ำยีตัวมานะ ด้วยอารมณ์โกรธแบบไม่ยอมแพ้ใคร นารินใช้เท้าเหยียบกลางอกมานะเข้าเต็มๆ

ฉากนี้ถือว่าเป็นฉากยากของทั้ง นัท และ เจมส์ จิ เพราะทั้งคู่ยอมรับว่าไม่เคยเล่นบทและอารมณ์แบบนี้มาก่อน เป็นบทที่ท้าทายมาก อารมณ์สวิงขึ้นลง พี่แอ้ว อำไพพร ผู้กำกับ อธิบายอารมณ์ตัวละคร ให้แสดงกันแบบจัดเต็ม โดยเฉพาะนัท เป็นอารมณ์ที่ระบายความรู้สึกในใจออกมาเต็มที่ และเมื่อไปเจอกับพวกญาติๆ ของสามีที่จ้องจะทำร้าย จะได้กล้าสู้ กล้าว่าแบบไม่ยอม Admauto99

เรียกว่ากว่าจะถ่ายฉากนี้เสร็จ นัท มีเรีย ยอมรับว่าหมดแรงเลยทีเดียว ขณะที่ เจมส์ จิ ก็หน้าอกแดงเถือก เพราะโดน พี่นัท เหยียบจริงกระทืบจริง ผลจากการปลุกความมั่นใจแบบนี้จะเป็นอย่างไรต่อไป ต้องติดตามชมฉากสนุกๆ นี้ได้ในละคร "โลกหมุนรอบเธอ" วันอังคารที่ 27 สิงหาคม เวลา 20.30 น. ทางช่อง 3 กด 33

ระทึกกลางกรุง ดินทรุดทางขึ้นรถไฟฟ้าแยกไฟฉาย จนท.เร่งซ่อมแล้ว
ระทึกกลางกรุง ดินทรุดทางขึ้นรถไฟฟ้าแยกไฟฉาย จนท.เร่งซ่อมแล้ว นำหินกรวดมาปิดรูที่เกิดเหตุ

จากกรณีแฟนเพจ สำนักงานเขตบางกอกน้อย Admauto99 Bangkoknoi district office เผยว่า พื้นทางเท้าดินถล่ม!!! ใต้สถานีรถไฟฟ้า สามแยกไฟฉาย ทุกหน่วยพร้อม สำนักการโยธา สำนักงานเขตฯ การประปานครหลวง รฟม. เบื้องต้น มีการกั้นพื้นที่เพื่อให้เจ้าหน้าที่ร่วมตรวจสอบแล้ว ขณะที่สำนักงานเขตยังไม่ได้รายงานพบผู้บาดเจ็บ หรือเสียชีวิต เหตุเกิดวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา

สำหรับความคืบหน้า วันที่ 26 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวจึงลงพื้นที่ตรวจสอบ ในจุดเกิดเหตุในช่วงเช้า พบเจ้าหน้าที่ของ รฟม. และทีมช่าง นำผ้าใบมาปิดกั้นในจุดเกิดเหตุ โดยไม่ให้ประชาชนที่เกี่ยวข้องบันทึกภาพในจุดดังกล่าว

ในส่วนทีมช่างนำหินกรวดมาปิดหลุมที่เกิดเหตุ จากการสังเกตพบว่าจุดที่เกิดเหตุอยู่ติดกับลำรางระบายน้ำเก่า จึงทำให้มีการขุดทางระบายน้ำให้ต่ำกว่าอุโมงค์ลอดแยกไฟฉาย และจุดที่เกิดเหตุเองอยู่เชิงทางขึ้นรถไฟ

โดยรางระบายน้ำที่ลอดใต้อุโมงค์ลอดแยกไฟฉายยังไม่แล้วเสร็จ เป็นเขตความรับผิดชอบของกรุงเทพมหานคร ในส่วนพื้นที่ทรุดตัวนั่นเป็นเขตความรับผิดชอบของรฟม

จับมือปืนรับจ้าง หนีโทษจำคุก 33 ปี หลังลอบสังหารเป้าหมายในโรงแรม แต่ไม่สำเร็จ
วันที่ 24 ส.ค.67 พล.ต.ต.ศุภากรณ์ จันทาบุตร ผบก.ปพ., พ.ต.อ.ศิววงศ์ ดำรงสัจจ์ศิริ ผกก.3 บก., พ.ต.ท.อัฐพ์ เอิบอาบ รอง ผกก.3 บก.ปพ., พ.ต.ท.ณัฏฐ์พัฒน์ ทองยอดแก้ว สว.กก.3 บก.ปพ., ร.ต.อ.นริศ มานพ รอง สว.กก. 3 บก.ปพ. และเจ้าหน้าที่ กก.3 บก.ปพ. ร่วมจับกุม นายไพศาล อายุ 56 ปี ชาว จ.ตราด บริเวณบนเนินเขาอิด่าง หมู่ 2 ต.ชัยนารายณ์ อ.ชัยบาดาล จ.ลพบุรี

สืบเนื่องจาก วันที่ 20 พ.ย.32 มีคนร้ายใช้อาวุธปืนยิง นางสมใจ Admauto99 ซึ่งเป็นผู้จัดการโรงแรม และ นายเสวียง น้องเขยของ นางสมใจ เหตุเกิดที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน จ.ตราด โดยทั้ง 2 ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ส่วนคนร้ายหลบหนีไป

เบื้องต้นผู้เสียหายคาดว่า น่าจะเกิดจากเรื่องความขัดแย้งกันเกี่ยวกับการซื้อขายที่ดิน มือปืนจึงถูกจ้างวานมาให้ลงมือฆ่า นางสมใจ แต่ไม่สำเร็จ ก่อนจะจับกุมมือปืนได้ จากนั้น นายไพศาล ก็ได้ให้การปฏิเสธทั้ง 3 ศาล โดยศาลชั้นต้น ศาลอุทธรณ์ และศาลฎีกา พิพากษายืนจำคุก 33 ปี นายไพศาล หลบหนี ก่อนถูกจับกุมตัวได้ดังกล่าว

จ๋า เจ้าของแบรนด์ดัง ฉุนแท็กซี่เอกมัย เหมา400 ตะคอกใส่หน้า ที่นี่ไม่มีมิเตอร์.
จ๋า เจ้าของแบรน์ดัง ฉุนจัดถ่ายคลิปจวกแท็กซี่เอกมัย เรียกระยะทางไม่เกิน 10 นาที เอา 400 บาท ตะคอกใส่หน้าซ้ำ ที่นี่ไม่มีมิเตอร์ จี้ผู้ใหญ่จัดการ ที่นี่เมืองไทย ไม่ต้องมีมิเตอร์ใช่หรือไม่

กลายเป็นประเด็นร้อนในโลกออนไลน์ เมื่อเจ้าของแบรน์ดัง คุณจ๋า ได้ออกมาถ่ายคลิปถึงเหตุการณ์ที่เจอแท็กซี่ไทยขูดรีด โดยระบุว่า "ประชาชนทั้งประเทศรู้ แต่ผู้ใหญ่ไม่เคยรู้!! เหมือนไปที่ไหนก็ไม่ใช่ที่สำหรับคนไทยแล้ว ถ้าปล่อยให้เป็นแบบนี้ต่อไปบอกตรงๆ"

เนื้อหาในคลิป คุณจ๋า ได้เล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าว Admauto99 ว่า "มีโอกาสมาเที่ยวเอกมัยไม่ได้มาหลายปีแล้ว คนไทยน้อยมาก 20% คนต่างชาติ 80% ก็ไปเที่ยวปกติ ออกมาโบกแท็กซี่ไปกินข้าวใกล้ๆ ไม่เกิน 10 นาที คนขับแท็กซี่บอกว่า 400 จึงบอกว่า ทำไมแพงจัง ไม่มีมิเตอร์เหรอคะ สิ่งที่เจอคือ คนขับแท็กซี่ตะโกนใส่หน้ากลางถนนที่คนเยอะมากว่า ที่นี่ไม่มีมิเตอร์หรอกนะ

เราเป็นคนไทย เขาเป็นคนไทย ที่นี่แผ่นดินไทย ที่นี่ถนนเอกมัย กฎหมายเมืองไทย ไม่มีมิเตอร์กันแล้วเหรอ อยากฝากผู้ใหญ่ที่ดูแลเรื่องน้ี ลงพื้นที่ดูแลกันหน่อย ถ.เอกมัย ไม่ต้องมีมิเตอ์แล้วใช่หรือไม่ ถ้าจะไปใกล้ๆ ก็คือ 400 บาท ไม่ต้องกดมิเตอร์ จะได้เข้าใจตรงกัน ทุกคนที่ยืนอยู่บนแผ่นดินไทยจะได้ทราบว่า ตรงนี้ไม่ต้องใช้มิเตอร์แล้ว

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ส่งผลกระทบต่อคนหากิน ทีี่ต้องใช้แท็กซี่ในการเดินทาง นี่ขนาดรวยยังไม่ไหวเลย กะรวยเลยไปแค่นี้ 400 บาท ถ้าเป็นจริงก็ออกกฎหมายมาให้ชัดว่าไม่ต้องใช้มิเตอร์ แต่ถ้าไม่จริง ก็ช่วยจัดการให้ด้วยนะคะ"

พิเชษฐ์ ไม่แคร์ดราม่า ตั้งระฆังหน้าสภา ชี้สัญลักษณ์การพ้นทุกข์ ยกเป็นจุดเช็กอิน.
'พิเชษฐ์' ไม่แคร์ดราม่า ปมย้อนยุคพ่อขุนฯ ตั้งระฆังหน้าสภา ชี้ เป็นสัญลักษณ์ประชาธิปไตย-การพ้นทุกข์ของประชาชน ยกเป็นจุดเช็กอิน-เซลฟี่ที่สวยงามมาก

เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 ให้สัมภาษณ์กรณีมีการวิพากษ์วิจารณ์ถึงการนำระฆังขนาดใหญ่มาตั้งหน้าศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ หน้าสภาฯ ว่า ต้องขอบคุณที่ผู้คนให้ความสนใจ ซึ่งจริงๆ แล้วระฆังจะต้องตั้งอยู่ในซุ้มที่สวยงาม


โดยขณะนี้ศิลปินกำลังอยู่ระหว่างการออกแบบซุ้ม แต่มีการจัดซื้อระฆังมาก่อนซุ้ม Admauto99 เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของประชาธิปไตย เป็นสัญลักษณ์ของการเข้าถึง และสัญลักษณ์ของการรับเรื่องราวร้องทุกข์ รัฐสภาของเราเป็นที่พึ่งหวังของประชาชน ระฆังจะเป็นสัญลักษณ์ของการพ้นทุกข์ ส่วนใครจะวิจารณ์ก็วิพากษ์วิจารณ์กันต่อไป

เมื่อถามว่าจะเป็นการแสดงความล้าหลังหรือไม่ เพราะสภามีนโยบาย Smart parliament นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า ประวัติศาสตร์เราก็ต้องรักษาไว้ อย่างไรก็ตาม จากนี้จุดรับเรื่องราวร้องทุกข์จะเป็นระบบดิจิทัลทั้งหมด ระฆังจะเป็นสัญลักษณ์ของการพ้นทุกข์ของประชาชน ส่วนการเข้าออกสภาจะมีการสแกนม่านตา สแกนใบหน้า ซึ่งจะเป็นเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในปี 2568

"แต่ระฆังเป็นสัญลักษณ์สมัยพ่อขุนรามคำแหง ท่านก็ใช้อยู่ อันนี้ให้นึกถึงประวัติศาสตร์ ไม่มีอะไรมากมาย เอาไว้เซลฟี่เวลามาสภา ก็ถือว่าเป็นจุดเช็กอินที่สวยงามมาก คอยดูคอยติดตามกันต่อไปครับ" นายพิเชษฐ์ กล่าว

ทหารเกณฑ์ วัย 18 ถูกซ่อมวินัยจนตาย ครูฝึกจะหนีข้ามไปลาว ถูกจับ ล่าสุดได้ประกันตัว
ทหารเกณฑ์ วัย 18 ถูกซ่อมวินัยจนตาย ครูฝึกจะหนีข้ามไปลาว ถูกจับ ล่าสุดได้ประกันตัว แม่เล่าน้องอยากเป็นทหารถึงขั้น ลดน้ำหนัก 10 กก. เพื่อให้ได้เป็น

น้ำ นิชนันท์ วังคะฮาต อดีตผู้สมัคร สส.ชลบุรี เขต 10 พรรคก้าวไกล โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวนำเสนอเรื่องราวของ ทหารเกณฑ์ โดนซ้อมจากการซ่อมวินัยจนเสียชีวิต หลังไปร่วมงานสวดพระอภิธรรม พร้อมรับฟังพูดคุยรายละเอียดเรื่องที่เกิดขึ้น กับพ่อแม่ น้องเน (สงวนชื่อสกุล) อายุ 18 ปี โดยระบุใจความดังนี้

1. น้องเน เป็นคนเรียบร้อย ไม่ค่อยพูด ไม่ใช่คนใจร้อน เรียนชั้น ปวช. ใกล้จบแล้วดรอปไว้ พออายุ ครบ 17 ปี เป็นชายสัญชาติไทยต้องไปขอขึ้นทะเบียนทหารกองเกิน หรือ ใบ สด.9 น้องเน ได้คุยเรื่องเกณฑ์ทหารกับสัสดี น้องเน เป็นคนตัวใหญ่ สูง สัสดีแนะนำว่า รูปร่างเหมาะน่าสมัครไปเป็นทหารอาชีพ

2. พออายุครบ 18 ปี น้องเน ไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ เพื่อฝันต่อยอดการได้เป็นทหารอาชีพ เป็นนายสิบต่อ จะได้มีงานทำที่มั่นคง พร้อมเรียนต่อไปในอนาคต จะได้ช่วยแบ่งเบาช่วยเหลือแม่ได้

3. เดือน พ.ย. 2566 ไปสมัครเป็นทหารเกณฑ์ ช่วงแรกมวลร่างกายไม่ผ่าน สัดส่วนน้ำหนักกับส่วนสูงเกิน ทำให้กลับมาลดน้ำหนักอีก 10 กก. จนวันที่ วันที่ 1 พ.ค. 2567 น้องเน ได้เข้าไปเป็นทหารเกณฑ์ที่ค่ายนวมินทร์ จ.ชลบุรี Admauto99

4. วันที่ 26 พ.ค. 2567 ถึงวันพบญาติครั้งแรก แม่และยาย น้อง 2 คน ไปเยี่ยม น้องเน ที่ค่าย แม่เห็นน้องเนน้ำหนักลดลงไปอีก 10 กก. ภายในไม่ถึง 1 เดือน แม่ถามว่าไหวไหม น้องบอกว่าไหว แต่ไม่ได้เล่าเรื่องฝึกอะไรให้แม่ฟัง แต่บอกแม่ว่า แม่อย่าทิ้งผมนะ ต้องมาเยี่ยมผมนะ แม่บอกมาแม่ต้องมาสิ

5. คืนวันที่ 22 มิ.ย. แม่ได้รับแจ้งว่าน้องชีพจรต่ำ ติดเชื้อในกระแสเลือด ให้แม่ไปที่ รพ.ค่ายนวมินทราชินี พอแม่ไปถึงน้องไม่ได้สติ ใส่ท่อช่วยหายใจ ร่างกายบวม ทราบผลตรวจของหมอคือ สมองบวม ซีโครงหักทั้ง 2 ข้าง ปอดฉีก ปอดรั่ว ไหปลาร้าหัก กระดูกสันหลังหัก

6. สอบถามได้ความว่า น้องโดนครูฝึกซ่อมวินัย 2 รอบ รอบแรกได้รับบาดเจ็บ แต่ไม่มีใครพาไปโรงพยาบาล ให้กินยารักษาแผลที่ขาในห้องพยาบาลในค่ายทหาร แล้วทำให้เหมือนครูฝึกได้ข่าวว่าน้องจะฟ้องผู้พัน หัวหน้า จริง ๆ น้องไม่ได้ฟ้อง เลยมาโดนครูฝึกซ้อมรอบที่ 2 อาการหนักกว่าเก่า ใช้ไม้ตีด้านหลัง โดยมีคนเห็นท่อนไม้ด้วย

7. ครูฝึก คนนี้เป็นครูฝึกเสนารักษ์ ยศสิบเอก อายุ 33 ปี เป็นคนอยู่กับน้องคนสุดท้าย ตอนช้อมเพื่อนได้ยินเสียงน้องร้องออกมาจากในห้อง สักพักเสียงเงียบหายไป เพื่อนเลยวิ่งออกมาดู เปิดห้องเข้าไปเห็นครูฝึกคนนี้กำลังทำซีพีอาร์น้อง ซึ่งแม่น้องไม่แน่ใจว่า เป็นการทำซีพีอาร์เพื่อช่วยเหลือชีวิต หรือทำซ้ำเพื่อให้เสียชีวิตเร็วขึ้น เพราะน้องกระดูกหน้าอกช้ำมาก

8. น้องเน หมดสติหยุดหายใจ 14 นาที แต่ทหารไม่เร่งพาส่งโรงพยาบาลทันที รอสักพักใหญ่ถึงได้นำส่งโรงพยาบาล หมอปั๊มหัวใจขึ้นมาและใส่ท่อช่วยหายใจอยู่ได้ 2 คืน ก่อนส่งต่อ รพ.พระมงกุฎเกล้า น้องก็ไม่ฟื้น จนมาเสียชีวิตในวันที่ 2 ส.ค. รวมเวลาทั้งหมด 40 วัน

9. ครูฝึกพอรู้ว่าน้องเสียชีวิต พยายามหนี ข้ามฝั่งไปประเทศลาว ไปถึง จ.นครพนม แล้วผู้พันสั่งทีมทหาร ตำรวจ สกัดให้รวบตัวมาดำเนินคดี พ่อน้องไปแจ้งความทำร้ายร่างกาย ตอนนั้นน้องยังไม่เสียชีวิต อัยการให้ปล่อยตัวครูฝึก ได้รับการประกันตัวออกมา เจ้าตัวปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่ได้ทำ

10. แม่มารู้หลังน้องเสียชีวิตแล้ว ว่าน้องได้แชตคุยกับแฟน บอกแฟนว่าโดนตี โดนต่อย อยู่เฝ้าเวรยันเช้า พ่อน้องบอกมีครูฝึก 13 คน ที่ทำร้ายร่างกายน้อง แต่ครูฝึกเสนารักษ์ อยู่กับน้องคนสุดท้าย

เผยอาการล่าสุด ผู้โดยสาร ทำคอนเทนต์ ห้อยโหนบันไดรถไฟ พลาดหัวชนเสาสลบ
เผยอาการล่าสุด ผู้โดยสาร ทำคอนเทนต์ ห้อยโหนบันไดรถไฟ พลาดหัวชนเสาสลบ มีอาการปวดศีรษะ ต้องเอกซเรย์สมอง พบศีรษะมีอาการบวม โน

เมื่อวันที่ 14 ส.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่สื่อสังคมออนไลน์เผยแพร่คลิปวิดีโอ ซึ่งถ่ายทำ CONTENT สุดอันตราย โดยผู้โดยสารยืนบริเวณบันไดทางขึ้นลงรถไฟ และยื่นตัวออกนอกขบวนรถ จนทำให้เกิดเหตุศีรษะของผู้โดยสารชนเข้ากับเสาอย่างรุนแรงนั้น

ต่อมา นายเอกรัช ศรีอาระยันพงษ์ หัวหน้าสำนักงานผู้ว่าการ การรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบพบว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 ส.ค.67 เวลา 15.15 น. ขณะที่ขบวนรถท้องถิ่นที่ 452 สถานีสุไหงโกลก-นครศรีธรรมราช เคลื่อนตัวออกจากสถานีพัทลุง

มีผู้โดยสารเพศชาย อายุ 19 ปี ถ่ายทำ CONTENT โดยการห้อยโหนบริเวณบันไดรถไฟ และยื่นตัวออกนอกขบวนรถ จนทำให้เกิดเหตุศีรษะชนเข้ากับเสาอย่างรุนแรง และร่วงลงสู่พื้นชานชาลาสถานีพัทลุง

สำหรับอาการล่าสุดของ ผู้โดยสารท่านดังกล่าว ได้รับบาดเจ็บที่นิ้วมือเล็กน้อย และมีอาการปวดศีรษะ เจ้าหน้าที่จึงนำตัวส่งที่โรงพยาบาลพัทลุง ซึ่งหลังจากแพทย์ตรวจร่างกาย และเอกซเรย์สมองแล้ว พบว่าศีรษะมีอาการบวม โน ภายในสมองปกติ แพทย์จึงให้กลับบ้านได้

ทั้งนี้ แม้ผู้โดยสารได้รับบาดเจ็บไม่มาก เนื่องจากขณะเกิดเหตุ ขบวนรถเพิ่งออกจากสถานีทำให้ขบวนรถใช้ความเร็วต่ำอยู่ แต่การกระทำดังกล่าวถือเป็นการกระทำโดยประมาท และไม่เหมาะสมเป็นอย่างยิ่ง จนอาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุร้ายแรง ถึงขั้นพิการหรือเสียชีวิตได้ จึงขอเตือนให้ผู้โดยสารทุกคนห้ามกระทำพฤติกรรมดังกล่าวอย่างเด็ดขาด Admauto99
 
นอกจากนี้ การรถไฟฯ สั่งการให้พนักงานบนขบวนรถเพิ่มความถี่ในการตรวจสอบความเรียบร้อย พร้อมกับให้คำแนะนำด้านความปลอดภัยแก่ผู้โดยสาร หากพบว่ามีผู้ใช้บริการแสดงพฤติกรรมที่เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เจ้าหน้าที่จะมีการแจ้งเตือนทันที และหากไม่ปฏิบัติตาม เจ้าหน้าที่จะเชิญผู้โดยสารให้ลงจากขบวนรถทันที

ป่าเงินล้านท่าวังทอง ชาวบ้านเข้าป่าหาเห็ด สร้างรายดีช่วงฤดูฝน รับเงิน 500 บาทต่อวัน
พะเยา ป่าเงินล้านท่าวังทอง ชาวบ้านเข้าป่าหาเห็ด สร้างรายดีช่วงฤดูฝน ตกวัน 500 บาทต่อวัน นักท่องเที่ยวนิยมหาซื้อรับประทาน รสชาติ อร่อย ปลอดภัย

13 ส.ค. 67 – ผู้สื่อข่าวรายงานว่า อาชีพการเก็บเห็ดขายของชาวบ้าน ในพื้นที่ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา ต่างนำเห็ดที่พวกเขาหามาได้จากป่าใกล้หมู่บ้านออกมาจำหน่าย บริเวณข้างทางถนนสายป่าแดง-บ้านห้วยบง

ซึ่งเป็นกิจวัตรทุกวันของชาวบ้านที่นี่ในช่วงนี้ หลังจากเข้าสู่ช่วงฤดูฝน เกิดฝนตกลงมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง จะมีเห็ดหลากหลายชนิดออกเป็นจำนวนมาก ซึ่งสามารถสร้างรายได้ให้กับพวกเขาได้เป็นอย่างดี

นางบัวคำ ก้อนคำ ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ที่ 12 ตำบลท่าวังทอง อำเภอเมือง จังหวัดพะเยา บอกว่าช่วงนี้ชาวบ้านจะมีอาชีพการหาเห็ดมาจำหน่ายเนื่องจากมีป่าบริเวณใกล้หมู่บ้าน ซึ่งชาวบ้านเรียกป่าหลังค่ายทหาร จะมีเห็ดหลากหลายชนิดออกมาเป็นจำนวนมาก ทั้ง เห็ดโคน เห็ดดำ เห็ดแดง เห็ดกระโดง เห็ดไข่ และเห็ดอื่นๆ ที่สามารถกินได้


ในปีนี้รู้สึกว่าปริมาณเห็ดจะออกมามาก เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยชาวบ้านบางรายจะออกหาเห็ดตั้งแต่ตี 2 เป็นต้นไป โดยใช้ไฟส่อง ส่วนตัวเองนั้นจะออกหาเห็ดตั้งแต่ช่วงเช้าตี 5-6 โมง โดยบางวันสามารถหาเห็ดมาจำหน่ายและสร้างรายได้ต่อวัน 300-500 บาท ซึ่งถือว่าเป็นรายได้ที่ดีในช่วงนี้ Admauto99

นางบัวคำ เผยว่า โดยในแต่ละปีช่วงนี้ ชาวบ้านในหมู่บ้านในพื้นที่จะหาเห็ดมาจำหน่าย เนื่องจากป่าใกล้หมู่บ้านมีเห็ดออกเป็นจำนวนมาก และในช่วง เวลา 3 เดือนนี้ เห็ดแต่ละชนิดออกมาอย่างต่อเนื่อง และเห็ดที่นี่เป็นที่ต้องการของชาวบ้านในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง รวมถึงนักท่องเที่ยวเดินทางผ่าน

ดราม่าเลย นักท่องเที่ยวเหยียบรอยพระพุทธบาทจำลองแปะทอง ชาวเน็ตเห็นต่าง
วัดพระธาตุดอยสุเทพ สถานที่ท่องเที่ยวดัง เกิดเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อีกครั้งเมื่อนักท่องเที่ยวคนหนึ่งขึ้นไปเหยียบในสิ่งที่ไม่ใช่ที่เหยียบ

เป็นโพสต์ที่กลายเป็นดราม่า เมื่ออินฟลูดัง ท็อฟฟี่เป็นตุ๊ดซ่อมคอม ได้เดินทางไปเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังอย่างวัดพระธาตุดอยสุเทพ แต่ถ่ายภาพติดนักท่องเที่ยวด้านหลังที่เหยียบขึ้นไปบนรอยพระพุทธบาทจำลอง

โดยเพจ ล้านนาประเทศ ได้นำภาพดังกล่าวมารีโพสต์ต่อ พร้อมระบุว่า "ให้ทาง พระธาตุดอยสุเทพ ต้องติดป้าย บอกว่าห้ามขึ้น หรือ ห้ามขึ้นเหยียบ เห็นบุคคลใส่เสื้อสีเหลือง เป็นฝรั่ง ขึ้นประทับรอยบาทา ทาบกับรอยพระบาท พระธาตุดอยสุเทพ@เชียงใหม่ อย่างไรก็ตามพบว่าคนที่เข้ามาคอมเมนต์เห็นไปในทิศทางตรงข้าม Admauto99

มันเป็นสัญลักษณ์สากล แม้แต่คนไม่รู้ภาษาเขาก็เข้าใจได้ว่า "ที่สำหรับขึ้นเหยียบ" เพราะเป็นรูปรอยเท้า และตำแหน่งพอเหมาะพอดี
ก็เล่นวางส่งเดชแบบนั้น และองศามันลงตัวเป๊ะเลย..ทางวัดก็ควรจัดวางให้เหมาะสมกว่านี้ครับ แก้ไขๆ
อย่าไปโทษเค้าเลย คนต่างชาติเค้าไม่เข้าใจหรอกครับต้องเขียนป้าย กำกับไว้ครับ

วัยรุ่นนับสิบ บุกห้องพัก กระทืบ นักศึกษาหนุ่ม ต่อหน้าแฟนสาว เหยื่อผวา
วัยรุ่นนับสิบ บุกห้องพัก ล็อกแฟนสาว กระทืบ นักศึกษาหนุ่ม อ้างเคยไปไล่ยิง เหยื่อ เผยไม่รู้เรื่อง แฉเป็นกลุ่มมีอิทธิพล "คุ้มมูล" ใครจะกล้า ผวา เจอทักแชทหาอีก

วันที่ 11 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนักศึกษาหนุ่มรายหนึ่งว่า ถูกทำร้ายถึงหน้าห้องพัก ไปแจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า ทั้งที่รู้จักคนทำร้ายเป็นอย่างดี เกรงว่าจะได้รับอันตรายอีก เพราะวัยรุ่นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล ใครไม่กล้าจับ


ตรวจสอบที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พบนายกิตติพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่ง พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.50 น. ตอนนั้นพักอยู่ในห้องพักกับแฟนสาว จากนั้นได้มีเสียงรถจักรยานยนต์หลายคันมาจอดบริเวณหน้าห้องพัก คิดว่าน่าจะมีคนมาถามทาง จึงเดินออกไปดู


วัยรุ่นนับสิบ บุกห้องพัก ล็อกแฟนสาว กระทืบ นักศึกษาหนุ่ม อ้างเคยไปไล่ยิง เหยื่อ เผยไม่รู้เรื่อง แฉเป็นกลุ่มมีอิทธิพล "คุ้มมูล" ใครจะกล้า ผวา เจอทักแชทหาอีก Admauto99

นายกิตติพงษ์ กล่าวต่อว่า พบว่ามีวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์หลายคัน มาด้วยกันประมาณ 10 คน ทันใดนั้นได้มีหนึ่งในนั้นบอกว่า "นี่แหละไอ้เท็น" จากนั้นทุกคนลงมาจากรถแล้วทำร้ายตนจนไม่ทันตั้งตัว ประมาณ 10 นาที จนกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนั้นหนำใจ จึงขับรถจักรยานยนต์หนีไป


นายกิตติพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่ง ผู้เสียหาย

นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นได้ไปแจ้งความไว้กับ พ.ต.ท.ศรศักดิ์ พากระโทก สารวัตร(สอบสวน) สภ.สตึก ทันที โดยตนระบุคนที่จำหน้าได้ 2 คนชัดเจนกับตำรวจที่เป็นคนลงมือทำร้ายตน

นายกิตติพงษ์ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่มาร้องสื่อเพราะเกรงคดีจะเงียบ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และตอนนี้ไม่กล้าจะพักอยู่ห้องแล้ว เพราะเกรงว่ากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้จะตามมาทำร้ายซ้ำอีก สาเหตุอาจจะไม่พอใจที่ตนไปแจ้งความ

ผู้เสียหาย กล่าวว่า อีกทั้งมีคนในกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ทักแชทมาหาว่า ทำไมถึงไปแจ้งตำรวจ ทั้งยังอ้างว่าตนเคยไล่ยิงกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้มีอิทธิพล ชาวบ้านรู้จักกันดีว่ากลุ่ม "คุ้มมูล" ตำรวจไม่กล้าแตะ โอกาสที่ตนจะไปไล่ยิงเขาตนไม่กล้าทำอย่างแน่นอน


ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) แฟนสาวของผู้เสียหาย กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่ากลุ่มเพื่อนมาหา พอออกไปดูแฟนถูกรุมทำร้าย โดยมีกลุ่มหนึ่งที่มาล็อกตัวเองเอาไว้ จึงได้แค่มองแฟนถูกทำร้ายต่อหน้า
วัยรุ่นนับสิบ บุกห้องพัก ล็อกแฟนสาว กระทืบ นักศึกษาหนุ่ม อ้างเคยไปไล่ยิง เหยื่อ เผยไม่รู้เรื่อง แฉเป็นกลุ่มมีอิทธิพล "คุ้มมูล" ใครจะกล้า ผวา เจอทักแชทหาอีก

วันที่ 11 ส.ค.2567 ผู้สื่อข่าวได้รับการร้องเรียนจากนักศึกษาหนุ่มรายหนึ่งว่า ถูกทำร้ายถึงหน้าห้องพัก ไปแจ้งความแล้วแต่คดีไม่คืบหน้า ทั้งที่รู้จักคนทำร้ายเป็นอย่างดี เกรงว่าจะได้รับอันตรายอีก เพราะวัยรุ่นกลุ่มนี้เป็นกลุ่มที่มีอิทธิพล ใครไม่กล้าจับ


ตรวจสอบที่ห้องเช่าแห่งหนึ่ง ต.นิคม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ พบนายกิตติพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่ง พร้อมเปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 10 ส.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 19.50 น. ตอนนั้นพักอยู่ในห้องพักกับแฟนสาว จากนั้นได้มีเสียงรถจักรยานยนต์หลายคันมาจอดบริเวณหน้าห้องพัก คิดว่าน่าจะมีคนมาถามทาง จึงเดินออกไปดู


วัยรุ่นนับสิบ บุกห้องพัก ล็อกแฟนสาว กระทืบ นักศึกษาหนุ่ม อ้างเคยไปไล่ยิง เหยื่อ เผยไม่รู้เรื่อง แฉเป็นกลุ่มมีอิทธิพล "คุ้มมูล" ใครจะกล้า ผวา เจอทักแชทหาอีก

นายกิตติพงษ์ กล่าวต่อว่า พบว่ามีวัยรุ่นขับรถจักรยานยนต์หลายคัน มาด้วยกันประมาณ 10 คน ทันใดนั้นได้มีหนึ่งในนั้นบอกว่า "นี่แหละไอ้เท็น" จากนั้นทุกคนลงมาจากรถแล้วทำร้ายตนจนไม่ทันตั้งตัว ประมาณ 10 นาที จนกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนั้นหนำใจ จึงขับรถจักรยานยนต์หนีไป


นายกิตติพงษ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 20 ปี นักศึกษาสถาบันแห่งหนึ่ง ผู้เสียหาย

นายกิตติพงษ์ กล่าวอีกว่า หลังจากนั้นได้ไปแจ้งความไว้กับ พ.ต.ท.ศรศักดิ์ พากระโทก สารวัตร(สอบสวน) สภ.สตึก ทันที โดยตนระบุคนที่จำหน้าได้ 2 คนชัดเจนกับตำรวจที่เป็นคนลงมือทำร้ายตน

นายกิตติพงษ์ กล่าวด้วยว่า สาเหตุที่มาร้องสื่อเพราะเกรงคดีจะเงียบ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และตอนนี้ไม่กล้าจะพักอยู่ห้องแล้ว เพราะเกรงว่ากลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้จะตามมาทำร้ายซ้ำอีก สาเหตุอาจจะไม่พอใจที่ตนไปแจ้งความ

ผู้เสียหาย กล่าวว่า อีกทั้งมีคนในกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ทักแชทมาหาว่า ทำไมถึงไปแจ้งตำรวจ ทั้งยังอ้างว่าตนเคยไล่ยิงกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้ ซึ่งเป็นไปไม่ได้ เพราะกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้มีอิทธิพล ชาวบ้านรู้จักกันดีว่ากลุ่ม "คุ้มมูล" ตำรวจไม่กล้าแตะ โอกาสที่ตนจะไปไล่ยิงเขาตนไม่กล้าทำอย่างแน่นอน


ด้าน น.ส.เอ (นามสมมติ) แฟนสาวของผู้เสียหาย กล่าวว่า ตอนแรกคิดว่ากลุ่มเพื่อนมาหา พอออกไปดูแฟนถูกรุมทำร้าย โดยมีกลุ่มหนึ่งที่มาล็อกตัวเองเอาไว้ จึงได้แค่มองแฟนถูกทำร้ายต่อหน้า